วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เมื่อฉันโกรธ...(บันทึกบทที่3)


"พึงระงับความโกรธด้วยความไม่โกรธ"
"โทษใดเสมอด้วยความโกรธ ไม่มี"


18/10/59
18.52
     วันนี้ได้รู้จักความโกรธ ได้รู้จักตนเองมากขึ้นว่าเรายังเป็นมนุษย์ที่มีกิเลส 1 ปีที่ผ่านมายอมรับว่าโกรธบ่อยมาก จากแต่ก่อนที่ไม่ค่อยโกรธใคร ถึงไม่พอใจก็จะเก็บไว้ ทว่าวันนี้ทำให้ได้รับรู้อารมณ์ของตนเองมากจริงๆทั้งที่ๆก่อนหน้านี้ตลอดทั้งวันผ่านไปด้วยดีแล้วแท้
     ตื่นนอน5.30 สวดมนตร์ทำความสะอาดห้อง เป็นเช้าที่สดชื่น การงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ออกกำลังตอนเย็น ทว่าเย็นวันนี้ เมื่อได้ยินคำพูดจากน้องที่เราเอ็นดูเหมือนญาติ พูดจาด้วยน้ำเสียงดูถูก "เจริญล่ะ"(โปรดใส่อารมณ์) คำว่าเจริญตัวมันเองเป็นคำที่ดีนะ เจริญ หากใช้ในบริบทที่ดีงาม เจริญๆนะลูก เจริญงอกงาม แต่ทว่า เมื่อออกมาจากปากน้องคนนี้ มันเสียใจสุดๆ ไม่รวมหลายๆครั้งที่ผ่านมา เราทะเลาะกัน มันโกรธ มันหายใจติดขัด เราเถียงกัน จนน้องเขาลงมือตีเราทั้งๆที่ขับรถอยู่ เราก็ตีกลับสิ เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำอย่างนี้ได่ยังไง สั่งสอนก็ขึ้นเสียงอีก เราไม่จบง่ายๆ แล้วคำว่าอีดอกก็ออกมาจากปากคุณเธอค่ะ อายุห่างกันกี่ปีคะคุณน้อง แก่พอจะเป็นแม่เธอได้แล้ว...(เจ็บสุดๆ)
   เราก็ตอกกลับสิคะ คำหยาบมาเลย เราคิดว่าทำยังไงก็ได้ให้เขาเจ็บเหมือนที่เราเจ็บ จากคำพูดนี่ล่ะเจ็บสุดๆ ทว่าเมื่อลองกลับมานั่งคิดดู ไม่น่าเลยเรา ไม่หน้าไปพูดอย่างนั้นเลย ถ้าเราตอกกลับเขาเราก็ไม่ต่างกับเขา เขาด่าเรา เราด่าเขา เราก็ไม่ต่างจากเขา
     เคยได้ยินคำพูดหนึ่งจากครูอ้อย ถ้าจำไม่ผิด ท่านบอกว่า 
     "คนเรานี่ก็แปลก ไปโกรธเขาเพราะเขาไม่ทำตามกิเลสของเรานี่นะ" มันก็ใช่จริงๆหลังๆเมื่อเราโกรธเราก็จะเข้าใจว่า ที่เราโกรธเพราะเขามาหมิ่นในศักดิ์ศรีเรา เพราะอะไรล่ะ เพราะเราอยากไง...อยากเป็นคนที่ดี ไม่อยากให้ใครมาดูถูก มีความคาดหวังให้เขาเคารพนับถือเรา เมื่อเขาไม่เป็นดั่งใจเรา เราก็โกรธ ความอยากก็เป็นกิเลส ความไม่ได้ดั่งใจเป็นกิเลส
     ยอมรับว่าเราผิด เราสำนึก อยากให้อภัย ไม่อยากก่อเวร...และเมื่อกี้ก็ไปค้นหาข้อมูลเรื่องความโกรธมา ซึ่งตรงกับตัวเองจริงๆ พอจะบันทึกได้ว่า

มาเป็นรูปเลยแล้วกัน

     วันนี้ขอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ ไฟท์ติ้งๆๆๆๆๆ
   the end  20.24น.

   
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น