วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คุณแห่งการทานอาหารมื้อเดียว

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย 
เราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว 
เมื่อเราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว 
ย่อมรู้สึกคุณ คือความเป็นผู็มีอาพาธน้อย 
มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลังและอยู่สำราญ..."
(พุทธดำรัส)

20/10/59
19.28น.

     วันนี้เป็นวันที่ผ่านไปอย่างราบเรียบ ตื่นนอน5.30น สวดมนตร์ทำวัตร นั่งสมาธิครึ่งชัวโมง หลังจากที่เมื่อคืน นอน4ทุ่มตามตารางแปะ ตื่นเองตอนตี4.01น.55555 ไม่รู้ว่าคิดเองหรือเปล่า เมื่อวานก็ตื่นตอนนี้ แต่นอนต่อ จนตี5ครึ่งถึงลุกขึ้น ทำภารกิจ วันนี้มีหลุดๆบ้างไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจ แต่ก็ได้วางแผนงานการปรับตัว ครั้งนี้จะต้องสำเร็จ จงสำเร็จ จงสำเร็จ เพื่อดำเนินตามรอยทางของพระพุทธเจ้าที่กล่าวเรื่องการฉันอาหารมื้อเดียว ซึ่งตรงกับหนังสือที่ได้อ่าน หนังสือ"ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี" เมื่อกี้เลยวาดแพลนไว้ 
     หลักการใช้ชีวิตต่อไป วัดผลภายในหนึ่งเดือน ความคาดหวังคือ น้ำหนักต้องลดลง ส่วนที่เหลือคือสุขภาพที่ดี เพราะในตำรากล่าวถึงการปฏิบัติตัวด้วย มิใช่เพียงการทานอาหารเพียงสิ่งเดียว รวมถึงการนอน การใช้ชีวิต เอาล่ะเดี๋ยวคงเห็นกันต่อไป วาดเป็นมายแม็พไว้คร่าว ใครที่อยากทราบรายละเอียดก็ลองไปหาหนังสือมาศึกษาดูนะคะ

mind map
     ในช่วงหนึ่งของวันนี้นึกถึงคำคมหนึ่งที่มีพระรูปหนึ่งท่านได้สอนเราไว้ เมื่อเราเฝ้าแต่ถามตนเองว่า ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น ทำไมๆๆๆๆ ท่านได้ให้คำกลอนมาบทหนึ่งว่า

"จับดีผู้อื่น พิจารณาตนเอง แล้วเราจะสมบูรณ์แบบ"     
     นั่นคือการมองคนอื่นแต่สิ่งที่เขามีดี เขามีดีอะไร เราจับเอาตรงนั้นมาคิด มาวิเคราะห์แล้วก็นำมาปฏิบัติตาม ส่วนสิ่งไหนที่ไม่ดีเราอย่าไปสนใจ มองหาส่วนที่ดีของเขาเสีย แล้วสิ่งดีๆทั้งหลายจากการจับดีผู้อื่นนั้นก็จะเข้ามาสู่ตัวเรา ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น สมบูรณ์แบบขึ้น 
     ตรงข้าม หากเรามัวแต่จับผิดผู้อื่น ภาพความไม่ดีของเขาก็จะเข้ามาติดอยู่ในใจเรา แล้ววันหนึ่งเราก็จะทำตามเขาไปโดยที่เราไม่รู้ตัว ประมาณ "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" อันนี้เรื่องจริง เราเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วเลยนำมาบอกได้ ทั้งที่เราบอกๆเตือน และคอยคิดย้ำความผิดของคนอื่น และแล้วเราก็นำกลับมาทำเสียเอง ข้อนี้ลองสังเกตตัวเองดู 
     เอาล่ะวันหลังจะขยายหัวข้อนี้เป็นอีกหัวข้อใหญ่แล้วกัน ไปๆมาๆกลายเป็นการเล่าเรื่องธรรมะไปเสียแล้ว มันก็จริง เรามีที่พึ่งทางใจเป็นพระธรรมนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุด พระพุทธองค์ท่านได้ตรัสรู้ และนำคำสอนนั้นฝากให้แก่เช้าโลก เพื่อให้พ้นจากความทุกข์ อยู่ที่ใครจะนำมาใช้หรือไม่ ตำรามากมายในโลก ปัญหามากมาย แก้ได้โดยพระธรรม และนำไปฝึกตัว แล้วจะเกิดผล เราก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังเดินเส้นทางสายนี้ อาจจะไม่สุดโต่งตัดขาดทางโลกเพื่อบวชชี แต่ก็อยากเป็นฆารวาสผู้ทรงธรรม (แต่ถ้าเราเกิดมาเป็นผู็ชายก็ไม่แน่ เราจะบวช) ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักพุทธศาสนา เป็นคนดีและช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกัน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 
     หวังว่าหนทางการดำเนินชีวิต รวมถึงการบอกเล่าเรื่องราว ผ่านบันทึกประจำวันนี้ จะเป็นเรื่องราวดีๆที่ทำให้ท่านมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปไม่มากก็น้อย เราก็จะเล่าเรื่องราวของเราต่อไปในแต่ละวัน เมื่อเกิดปัญหา ก็ตั้งคำถามและหาทางแก้โดยใช้หลักเหตุผลทางวิทยาศาสร์ และนำหลักธรรมมาแก้ปัญหาผสมรวมกันไป ....สาธุขอให้ทุกคนสู้ๆนะ "ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน"แล้วคุณก็จะมีความนับถือตนเอง และเป็นหนทางนำมาซึ่งความสุขต่อไป เราจะร่วมเดินทางไปพร้อมกัน...
20.09น.
     





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น