วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรื่อยๆ+เจอรถชนกัน+เกิดแสงสว่างเมื่อได้เขียนเรื่องราวความดี..ใจก็เป็นสุข

Today is Sunday. Slow life

23/10/59
19.35น.

     เข้ามาเพราะต้องบันทึกเรื่องราวทั้งวันที่ประสบมา วันนี้ตื่นสายเพราะเห็นว่าสงบดี ไม่ค่อยได้ยินเสียงรถให้วุ่นวาย เป็นวันที่หมดไปเปล่าๆจริง วันนี้ไมด้ดีไปกว่าเมื่อวานอย่างที่ตั้งใจ เป็นเพราะอารมณ์ช่วงนี้หงุดหงิดหรืออย่างไร เครียด...แต่วันนี้ลองได้อ่านเรื่องราวของหลวงพ่อ ก็ทำให้ได้คิด มีกำลังใจกับชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง 
     ขณะที่นั่งพิมพ์บันทึกอยู่นี้ เราชอบเหลือเกิน กับบรรยากาศที่สงบสุข เพราะไม่ได้ยินเสียงรถ เสียงหนวกหูจากการทำงานของโรงงานข้างล่าง เป็นเวลาที่สงบดีแท้ 
     ต่อ วันนี้เจอเหตุการณ์รถเฉี่ยวชนกันด้วย เห็นจากกระจกรถด้านหลัง ในวินาทีนั้นทุกอย่างสโลว์โมชั่น กระจกรถมอเตอร์ไซต์สองคันเกี่ยวกัน ตรงสี่แยก คงเพราะไม่ทันมอง หญิงกับชาย ข้าวกระจายเต็มถนน สองคนก้นกระแทกกับพื้น ดีที่ไม่เป็นไรมาก ชีวิตแค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น หากไม่ระวังความตายก็อาจมาเยือนเรา โดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้คิดได้ว่าเราไม่ควรประมาทต่อชีวิตตนเองจริง เราจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย ทำให้เริ่มกลัวความตายขึ้นมาแล้ว ไม่ได้กลัวเจ็บ แต่กลัวโลกหน้า ที่เราจะไปเยือนต่างหาก เมื่อความดีที่ได้ทำบนโลกนี้มีเพียงน้อยนิด บาปก็ยังทำ จิตใจช่วงนี้ก็เศร้าหมอง หากว่าเราต้องตาย คงได้ไปอบายแน่ กลัวเหลือเกิน เมื่อได้เห็น วีดีโอ เรื่องอบายที่ฉายทางยูทูป ทำให้เราไม่อยากไปเยือนมันเลยทีเดียว
     เรื่องที่เราได้ไปอ่าน ในโลกโซเซียล หลายๆคอมเม้นที่คนต่างว่ากล่าวสาดเสียเทเสีย ด่าคนนั้นนี้ และที่สำคัญคือการด่าว่าพระ ใครจะหาว่าเรางมงายหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับเรา เรามีศรัทธา เรามีความเชื่อ ตามศาสนาของเราว่า การด่าว่าพระ การด่าว่าคนดี การใส่ร้ายป้ายสี นั้นเป็นบาป และไม่ใช่จำนวนน้อยเลยทีเดียวมากมายมหาศาล พาลให้นึกไปถึงวันที่คนหล่าวนั้นต้องเดินไปยังนรก เพื่อเข้าไปรอฟังคำตัดสินจากท่านยมบาล คงเดินเบียดเสียดอัดแน่น จนไม่มีทางเดินกันเลย เพราะมันมากเหลือเกิน เราขอเตือนท่านๆไม่ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับพระ สิ่งใดๆก็แล้วแต่ ท่านอย่าได้ร่วมวงกับเขาเลย เลี่ยงเอาไว้ดีกว่า มิฉะนั้นผลกรรมมันหนักหน่าสาหัสมาก โดยเฉพาะหากไปใส่ร้าย พระท่านที่ดีมากๆแล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าต้องลงนรกขุมไหนดี....
     ว่ากันเรื่องอื่นต่อเมื่อคืน จำความฝันตัวเองไม่ได้...ข้าม เรื่องการจับดีผู้อื่นดีกว่า ต่อไป ในหนึ่งวันเราจะบันทึกหัวข้อต่อไปนี้หลังจากที่บันทึกอย่างสะเปะสะปะ เพื่อนที่บังเอิญเข้ามาอ่านเรื่องราวของเราจะได้ไม่สับสนไปกับสำนวนของเรา
1.ความฝัน(ถ้ามี) ปล.เขาว่ากันว่าหากเรายังฝันแสดงว่าเรายังหลับไปลึกพอ
2.เรื่องราวที่พบเจอ ที่รู้สึกในวันนั้น
3.ธรรมะที่ได้ในแต่ละวัน+ผลการนั่งสมาธิ
3.ความดีของผู้อื่นที่เราพบเจอ

ความดีของผู้อื่นวันนี้ 
1.หลานสาวแล้วกัน เธอเป็นหายโกรธง่ายๆมาก (ดีไหม)
2.แม่ เป็นคนใจดี ทำกับข้าวให้เรากินทุกวันเลย 
3.อาแบ(พี่)คนขับรถตุ๊กๆหน้าบ้านช่วยเราเปิดประตูโรงงานด้วย ประตูมันฝืดเราเลยเปิดไม่ไหว ขอบคุณนะคะ

     ปล.วันนี้เจอคนเก็บขยะด้วย น่าสงสาร เขามีรถจักรยานเก่าๆอยู่คันหนึ่ง เราเจอตอนขับรถผ่าน เขานั่งอยู่ในสวนสาธารณะ ข้างจักรยานคนนั้น เหมือนกำลังแทะกินอะไรสักอย่างในมือ ลุงเขาแก่แล้ว ผิวคล้ำๆหน่อย ร่างกายผอมเหี่ยวย่น ลุงนั่งอยู่คนเดียว ทำให้นึกถึงลูกหลายของแกว่าช่างใจดำนัก หรือหากไม่มีทำไมปล่อยให้ญาติของตัวเองต้องเป็นอย่างนี้ แต่ก็ยังชื่นชม แม้ลุงจะไม่มีคนดูแล แต่แกก็ยังขยันเก็บขยะคงเอาไปขาย ได้เงินไม่มากคงมีชีวิตไปวันๆ ถ้าเป็นไปได้ ความฝันของเราอย่างหนึ่งคือโรงทาน เราจะตั้งโรงทาน ใครจะร่วมกับเราบ้าง.....5555
     เราอยากมีโรงทาน แจกอาหารให้กับคนที่ยากจน ข้างๆกันก็จะทำห้องนั่งสมาธิ ไว้สำหรับนั่งปฏิธรรม แล้วเราก็จะทำร้านหนังสือ ที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟอยู่ในนั้น นี่คือความฝันเลยนะ...5555ใครจะหุ้นกับเรามั่ง 
     งั้นแค่นี้ก่อนนะกะว่าจะสวดมนตร์นั่งสมาธิก่อนนอนเสียหน่อย เพื่อนก็ลองทำดูนะ ลืมเรื่องในวันนี้ไปเสีย ศึกษาพระธรรม จากหนังสือก็ได้ หรือจากยูทูปก็ได้ มีให้อ่าน มีให้ดูเยอะเลย แล้วค่อยสวดมนตร์นั่งสมาธิ เริ่มจาก 15 นาทีก่อนก็ได้ แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาให้มากขึ้น 30นาที 1 ชม. แล้วก็เพิ่มๆ ความตั้งใจของเรา ก่อนนอน1 ชม ตอนเช้า 3 ชม. เวลาว่างๆตอนกลางวันสัก 2 ชม. ดีไหม ลองทำจากน้อยๆก่อนก็ได้ เราก็จะเริ่มจาก 30 นาทีก่อนวันนี้
     พรุ่งนี้วันพระ มีเรื่องเล่า(ไม่จบง่าย) เราอาศัยอยู่ในเมือง จังหวัดปัตตานี  ตอนกลางคืน แถวโต้รุ่ง จะมีคนนำดอกไม้มาวางขายตรงทางเดินฟุตบาทเป็นประจำทุกวัน ราวๆ5-6โมงเย็น ทว่าหากวันไหนเราขับรถผ่าน แล้วมีอีกเจ้าหนึ่ง(คนที่จะมาขายเฉพาะวันพระ) มาวางขายใกล้ๆกัน แล้วคนมุงซื้อเยอะ แสดงว่า พรุ่งนี้เป็นวันพระ เจ้าที่ขายอยู่เดิมก็จะเพิ่มปริมาณช่อดอกไม้ที่มัดขาย เรียกได้ว่าขายกันไม่ทันเลยทีเดียวต้องเรียกลูกหลานของตนเองมานั่งขายด้วย เป็นเด็กชาย น่าจะประมาณประถม เราก็ว่าดี รู้จักช่วยพี่น้องหาเงิน ไม่ไปเล่นซนเหมือนเด็กคนอื่น 
     เราไม่ต้องดูปฏิทินเลย จะรู้จากการดำเนินชีวิตของผู้คนได้ทันที และทำให้นึกว่าแม้เมืองที่เราอยู่จะมีคนนับถือศาสนาพุทธไม่ทั้งหมดของพลเมืองอาจจะครึ่งๆพอกับชาวมุสลิม แต่ก็ยังเห็นคนมากมายมาซื้อดอกไม้เพื่อนำไปถวายพระ พุทธศาสนิกชนยังมีศรัทธาอย่างดี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง.

ปล.หัวข้อเรื่องที่เป็นแบบนั้นเพราะที่ตั้งว่าเรื่อยๆนั้น แปลกจิตใจขณะที่พิมพ์ตั้งแต่บันทัดแรกจนถึงบันทัดสุดท้ายช่างต่างกัน ตอนแรกคิดว่าวันนี้จะบันทึกสิ่งใดดี แต่ทว่าพอนึถึงเรื่องราวที่ได้เจอะเจอ มันก็มีสิ่งดีๆข้อคิด ที่ได้จากการพบเห็นผู้คน สถานการณ์ต่าง ได้แง่คิดดีๆเรื่องบุญกุศล ทำให้จิตใจค่อยๆสว่างขึ้น แปลกๆจริงๆนึกว่าจะเขียนได้แค่ไม่เกินสองย่อหน้า แต่นี้ปล.ตั้งหลายครั้งแล้ว ยิ่งเขียนเรื่องราวดีในวันนี้ก็ค่อยๆพุดขึ้นมาเพื่อจะให้เราได้บันทึกมันเอาไว้ ....และก็ปลอีกครั้ง
     ที่โต้รุ้งอีกเช่นเคย นี่คงจะเป็นสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของคนเมืองเล็กเมืองนี้ เพราะทุกคนต่างมาซื้อกับข้าวสำหรับมื้อค่ำ สองวันมานี้เราสักเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งกางเต้นรับสกรีนเสื้อฟรี ช่างเป็นเรื่องที่ดีอะไรอย่างนี้ คงเป็นเหล่านักเรียนที่ใจดี เห็นช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชนกำลังไว้อาลัยให้พ่อหลวง ร.9 ของเรา เด็กๆเลยใจดี ใจบุญ รับกรีนเสื้อ เกี่ยวกับในหลวง คนต่างก็เอาเสื้อสีดำของตนมาสกีนกันมาก ต้องยืนต่อแถวกัน ....ดีแล้วในขณะที่สนามหลวงมีคนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ไป มีการแจกข้าวแจกน้ำ แจกเสื้อฟรี ปัตตานีของเราก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่นใจดี ทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา สาธุๆๆๆ ไปจริงแล้วนะ หลับในอู่ทะเลบุญนะคะ
20.08น.
     



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น